วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการติดตั้งระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใน Windows7

 การเตรียมตัวก่อนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ก่อนที่จะเริ่มติดตั้งอินเทอร์เน็ต เราจะต้องเตรียมอุปกรณ์ หรือสิ่งที่จำเป็นต่างๆ ให้พร้อมเสียก่อน สิ่งที่จำเป็นในการติดตั้งอินเทอร์เน็ต มีดังต่อไปนี้

1. เครื่องคอมพิวเตอร์        เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขายกันท้องตลาดส่วนใหญ่จะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทั้งสิ้น คุณสมบัติของเครื่อง อย่างน้อยควรเป็น Pentium II ขึ้นไป มีหน่วยความจำไม่ต่ำหว่า 64 Mb
2. โมเด็ม (Modem)        โมเด็มเป็นอุปกรณ์ในการส่งข้อมูลโดยแปลงสัญญาณ ดิจิตอลพอร์ตอนุกรมเป็นสัญญาณอนาล็อกส่งออกไปตามสายตัวโทรศัพท์และเมื่อถึงโมเด็มปลายทาง ตัวโมเด็มก็จะ แปลงสัญญาณอนาล็อกกลับเป็นดิจิตอลอีกครั้ง โมเด็มมีให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือ
 2.1 โมเด็มภายนอก (External Modem)  เป็นโมเด็มที่ติดตั้งอยู่ภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์ ติดตั้งง่าย การทำงานจะมีประสิทธิภาพดี ข้อเสีย คือ มีราคาแพง ซึ่งสามารถติดต่อได้ทั้งพอร์ต Com 1 และพอร์ต Com 2
 2.2 โมเด็มภายใน (Internal Medem) เป็นโมเด็มที่ติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นการ์ด ข้อดี มีราคาถูก แต่ติดตั้งลำบาก และมีประสิทธิภาพการใช้งานต่ำกว่าโมเด็มภายนอก มีลักษณะเป็นการ์ดเสียบเหมือนกับการ์ด ทั่วๆไปเหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์พอสมควร เพราะโมเด็มประเภทนี้จะติดตั้งยากและ มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการชนกันระหว่างอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ โมเด็มที่ใช้งานควรมีคุณลักษณะตามมาตรฐาน ดังนี้
        1. ความเร็วไม่น้อยกว่า 56 Kbps
        2. อย่างน้อยต้อง ใช้กับ Protocol v.90
        3. รับ-ส่ง Fax 14.4 Kbps ตามมาตรฐาน v.7 ขึ้นไป
        4. มีมาตรฐานของ v.42 (Correction) และ v.42 bis (Compression)
3. คู่สายโทรศัพท์
         ต้องใช้คู่สายโทรศัพท์ 1 หมายเลขที่ใช้ปกติอยู่ตามบ้านหรือจะเช่าคู่สายโทรศัพท์สำหรับ เชื่อมต่อสัญญาณกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือ ISP เพิ่มก็ได้ เพราะจะได้แยกการใช้โทรศัพท์ธรรมดากับโทรศัพท์ที่ใช้กับเครื่องต่ออินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตามคู่สาย โทรศัพท์ยังมีการให้เลือกใช้อีกหลายระดับซึ่งสามารถเช่าคู่สายเฉพาะที่จะใช้ต่อเชื่อมสำหรับระบบ คอมพิวเตอร์ เช่น สายต่อลีดส์ลาย (Leased Line) สายจากระบบ Data Net และสายแบบ ISDN (Integrated Service Digital Network) เป็นต้น แต่การใช้คู่สายพิเศษดังกล่าวจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้ใน ระดับองค์กรมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

 
4. ซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานบนอินเทอร์เน็ต             หมายถึงโปรแกรมที่ใช้ในการปฏิบัติงานบนอินเทอร์เน็ต ได้แก่ Internet Explorer, ICQ เป็นต้น
5. Internet
Account
        Internet Account คือ บัญชีผู้ใช้ที่แต่ละแห่งอนุญาตให้เจ้าของบัญชีมีสิทธิในการใช้บริการต่างๆ ถ้าเป็นบัญชีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต จะหมายถึง ผู้ใช้คนนั้นจะมีชื่อในการล็อกอิน (Login Name, User Name) และรหัสผ่าน (Password) เพื่อเข้าไปใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้ ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต เราจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่อยู่ในเขตจังหวัดนั้นเสียก่อน ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP มีอยู่หลายราย แต่ละรายก็มีความเร็วในการใช้งานแตกต่างกันออกไป รวมทั้งราคาค่าบริการการใช้งานก็แตกต่างกันไปด้วยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้นั้น เราจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ที่มีอยู่ในเขตจังหวัดนั้นเสียก่อน ซึ่งผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตก็อยู่ด้วยกันหลายราย แต่ละรายก็มีความเร็วในการใช้งานแตกต่างกันไป รวมทั้งราคาการใช้งานก็จะแตกต่างกันเช่นกัน การคิดราคาการใช้งานนั้น โดยส่วนใหญ่จะคิดเป็นรายชั่วโมง ประมาณชั่วโมงละ 15 ถึง 50 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการใช้งาน


การติดตั้งโมเด็ม

โมเด็ม 56 K

      เป็นโมเด็มแบบอนาล็อคที่ใช้ในการรับส่งสัญญาณผ่านระบบโทรศัพท์แบบธรรดา เวลาเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในแต่ละครั้งจำเป็นจะต้องหมุนหมายเลขโทรศัพท์ไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เร็ต (ISP) ด้วย มาตราฐานล่าสุดที่ใช้กันในปัจจุบัน คือ V.92 ซึ่งให้ Bit Rate หรืออัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดที่ 56/33.6 Kbps (รับข้อมูลขาลงจากอินเทอร์เน็ต หรือ Download ที่ความเร็ว 56 Kbps และส่งข้อมูล ขาขึ้น Upload ที่ความเร็ว 33.6 Kbps)

 โมเด็ม ADSL (โมเด็ม Hi-Speed)



เป็นโมเด็มแบบดิจิตอลที่ใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารและรับส่งข้อมูลกันด้วยระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนคู่สายโทรศัพท์แบบะรรดา โดยเลือกใช่ย่านความถี่ที่ไม่มีในการใช้งานอินเทอร์เน็ต (โมเด็มแบบ Dial-Up ในระหว่างใช้งานอินเทอร์เน็ตจะำม่สามารถใช้โทรศัพท์ปกติไปพร้อมๆกันได้) อีกทั้งเวลาเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในแต่ละครั่ง ก็ไม่จำเป็นต้องหมุนหมายเลขโทรศัพท์เหมือนกับ 56k Dial-Up อีกด้วย ปัจจุบันเทคโนโยยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Hing-Speed Internet) และโมเด็มของ ADSL นี้กำลังเป็นที่นิยมและได้กลายเป็นมาตรฐานที่ใช้งานกันโดยทั่วไป ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้ความเร็วได้ตามต้องการจากผ๔้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เช่น 256/128, 512/256 และ 1024/512 Kbps เป็นต้น โดยแต่ละความเร็วจะมีอัตราค่าบริการแต่กต่างกันไปสำหรับอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดด้วยระบบ ADSL ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 8192/1024 Kbps หรือก็คือ รับส่งข้อมูลขาลงจาก ISP (Download) ด้วยความเร็วสูงสุด 16 Mbps และส่งข้อมูลขาขึ้นไปหา ISP (Uplpad) ด้วยความเร็วสูงสุด 1 Mbps

Wireless Router Modem
1.เชื่อมต่อ Computer กับอุปกรณ์ Router ด้วยการต่อสาย Lan จาก Port RJ-45 ของ Router (port 1-4) มาที่ Port RJ-45 ของ Computer

2. เปิดโปรแกรม Internet Explorer พิมพ์ URL 192.168.1.1

3. ใส่ User Name = root , Password = admin

4. เข้าที่หน้าจอ Basic Setup เลือก Connection Type = Automatic Configuration-DHCP
5. กำหนด IP Address ให้กับอุปกรณ์ Wireless Router
จากรูปจะ Set ค่า ให้ Router
Local IP Address = 192.168.1.2
Subnet Mask = 255.255.255.0
Gateway และ Local DNS จะเป็นหมายเลข IP ของอุปกรณ์ Modem(ที่ทำหน้าที่เป็น Gateway) คือ 192.168.1.1

7. จากนั้น Click ปุ่ม Save Settings รอให้อุปกรณ์ Router Reboot ตัวเองประมาณ 2 นาที
ทีนี้มา Set สัญญาณ Wireless กัน
1. Set สัญญาณ Wireless โดยเข้าที่ Menu Wireless เลือก Basic Settings เปลี่ยนชื่อสัญญาณ Wireless ตามต้องการจากนั้น Click ปุ่ม [Save Settings]
2. ตั้งค่า Security ป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้สัญญาณ Wireless โดยเข้าที่ Menu Wireless  Wireless Security

กำหนดตามนี้
Security Mode = WPA Pre-Shared Key
WPA Algorithms = TKIP
ตั้งค่า WPA Shared Key ตามต้องการ
จากนั้น Click [Save Settings]

ากนั้นต่อสายเชื่อมระหว่างอุปกรณ์ Modem กับ Wireless Router และต่อเข้า Computer ตามรูปข้างล่าง แล้วลองเข้า Internet ถ้าได้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย


ทดสอบสัญญาณ Wireless ด้วยการเปิดตัวรับสัญญาณ Wireless แล้ว Connect เข้ากับสัญญาณ Wireless ที่ตั้งชื่อไว้ตามข้อที่ 9
ลองเข้า Internet

การกำหนดค่าตัวเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านโมเด็ม 56 K     

สามารถเชื่อมต่อได้ แต่ต้องทำการติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมผ่านศูนย์ซอฟท์แวร์ชื่อ gnome-ppp และสามารถเรียกใช้งานได้ดังนี้
  • ไปที่เมนู > อินเตอร์เน็ต > GNOME PPP
  • click ไปที่ Setup แล้วตั้งค่าต่างๆที่ต้องใช้ในการเชื่อมต่อ
  • เมื่อต้องค่าเสร็จแล้วให้กด close เพื่อกลับมาหน้าแรกของโปรแกรมแล้วกรอก username และ password และ Phone number แล้วทำการเชื่อมต่อ


การกำหนดค่าตัวเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

คุณลักษณะของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ บรอดแบนด์
 อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะมีลักษณะพิเศษ ต่างไปจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนโครงข่ายโทรศัพท์แบบเดิมอยู่ค่อนข้างมาก อันได้แก่
1. ความเร็ว
โดยทั่วไปบรอดแบนด์จะมีความเร็วสูงกว่าอินเทอร์เน็ตเดิมมาก ซึ่งความเร็วที่สูงขึ้นนั้น อาจเป็น 10-20 เท่าขึ้นไป ดังเช่นถ้าเคยใช้อินเทอร์เน็ตที่ต่อด้วยโมเด็มและสายโทรศัพท์ในแบบเดิม ความเร็วสูงสุดที่ 56,000 บิทต่อวินาที หรือเรียกกันว่า 56 Kbps (Kbps มาจากคำว่า Kilo bit per second) แต่ในความเร็วที่จะรับได้นั้นจะประมาณ 30-50 Kbps แต่สำหรับบรอดแบนด์นั้นจะมีความเร็วตั้งแต่ 256,000 บิทต่อวินาที จนถึง 10 ล้านบิทต่อวินาที ขึ้นอยู่กับบริการที่เราเรียกใช้และเริ่มมีในท้องถิ่นนั้นๆ


การกำหนดค่าตัวเชื่อมต่อผ่าน Wireless Router Modem
ในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต คุณต้องมีโมเด็มหรือเชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย และต้องได้รับบริการจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)
เมื่อต้องการตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้ทางลัดบนเดสก์ท็อปของ ISP ที่จัดไว้ให้ ให้ทำดังต่อไปนี้
1. บันทึกและปิดไฟล์ต่างๆ ที่เปิดค้างไว้ และออกจากโปรแกรมที่เปิดใช้งานอยู่
2. ดับเบิลคลิกที่ไอคอน ของ ISP บนเดสก์ท็อปของ Microsoft® Windows®
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อให้การตั้งค่าดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์
5. การกำหนดค่าตัวเชื่อมต่อผ่าน Wireless Router Modem
กรณีที่ 1 - เป็นการเชื่อมต่อ Router+Wireless ให้อยู่ Class IP เดียวกันกับระบบ Broadband Router
• เป็นการต่อใช้งานแบบธรรมดา โดย Broadband Router ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมต่อ Internet หรือเป็น Gateway นั้นเอง ( PPPOE , User: , Pass อยู่ใน Broadband Router) อะนะ และ Broadband Router ก็เปิดการแจก IP (DHCP Server) อยู่
• เราก็นำ port LAN จาก Broadband Router มาต่อที่ port LAN ของ Roter+Wireless
Roter+Wireless ต้อง SET IP local ให้อยู่ใน class เดียวกับ Broadband Router / subnet / gateway / dns ของ Broadband Router และ ปิดฟังก์ชั่น DHCP ของ Roter+Wireless ด้วย

ข้อดี
• ต้องการสร้างวงในระบบเครือข่ายให้อยู่วง Network เดียวกันเพื่อสามารถแชร์ข้อมูลในระบบได้ง่ายขึ้น
• ตัวอุปกรณ์ Router+wireless สามารถใช้งานในส่วน Wireless ได้ดียิ่งขึ้นเสถียรขึ้นเพราะไม่ต้องทำหน้าที่อะไรในระบบเลยแค่เป็น AP เท่านั้น
ข้อเสีย
• หากต้องการทำ Port Forword ที่ตัว Router+Wireless จะไม่สามารถทำได้เพราะตัวมันไม่ใช้เป็นตัวออก internet , DNS , Firewall ฯ
กรณีที่ 1-2 - เป็นการเชื่อมต่อ Router+Wireless ให้อยู่คนละ Class IP เดียวกับระบบ Broadband Router นะครับ
• โดยการนำ port lan จาก Broadband Router เข้ามาที่ port Internet ของอุปกรณ์ Router+wireless
• โดย Router+wireless จะแยกการทำงานในส่วนของ WAN (Internet) กับ Local IP "WAN ที่ได้ จะรับมาจาก Broadband Router" ทำให้ "Local ของ Router+Wireless สร้างวงภายในอีกวงหนึ่งขึ้นมา

ข้อดี
• ต้องการสร้างวงในระบบเครือข่ายให้อยู่คนละวงกัน เพื่อแยกส่วนการทำงาน
• สามารถควบคุมการออก internet ได้บนอุปกรณ์ Router+wireless

ข้อเสีย
• หากระบบ Router+Wireless ถูกเปิดการใช้งาน Firewall อยู่บนตัวอุปกรณ์เครื่อง Client ที่เชื่อมต่อกับตัวนี้จะไม่สามารถข้ามไปเจอเครื่อง Client ที่ถูกต่ออยู่กับฝั่ง Broadband Router
• หากต้องการทำ Port Forword ที่ตัว Router+Wireless จะไม่สามารถทำได้เพราะตัวมันไม่ใช้เป็นตัวออก internet , DNS , Firewall ฯ
กรณีที่ 2 - เป็นการเชื่อมต่อ Router+Wireless ให้เป็นตัวเชื่อมต่อ Internet (gateway)
• กรณีนี้ส่วนมากจะใช้งานกันเยอะ เพราะกรณีที่ผู้ใช้ มี Broadband Router ที่ผู้ให้บริการแถมๆ มาที่เป็น 1 port ADSL(RJ-11)
• ตัว Broadband Router จะทำงานในโหมด Bridge ซึ่งการทำงานก็เป็นเหมือนสะพานเพื่อให้ Router+Wireless เป็นตัวเชื่อมต่อ กับ ผู้ให้บริการ Internet

ข้อดี
• บนตัว Router+Wireless สามารถใช้งานฟังก์ชั้นต่างบนตัวนี้ได้มากขึ้น เช่น DNS , Port Forwarding , PPTP SERVER , QOS , สร้างกฏการใช้งานเครื่องของ Client ออกใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็นช่วงเวลา Access Retraction , Firewall ฯลฯ
ข้อเสีย
• บนตัว Broadband Router ที่นำมาใช้เป็น Bridge Mode จะไม่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อีกเป็นเพียงเสมือนตัวส่งผ่านข้อมูลที่มาจาก DSL ไปให้กับ Router + Wireless เท่านั้น